Mausmoin พาทัวร์ร้านขายของแบบไม่มีบรรจุภัณฑ์ในเยอรมนี

ในข่าวที่กระแสโลกร้อนกำลังเป็นที่สนใจ แต่ละคนก็อยากจะช่วยกันคนละเล็กละน้อยเพื่อลดโลกร้อน หนึ่งในวิธีง่าย ๆ ใกล้ตัวที่เม้าส์มอยน์นำรูปมาฝากก็คือ การซื้อของแบบไม่มีห่อพลาสติก ซื้อเท่าที่จำเป็น เพื่อลดขยะที่ไม่จำเป็นและลดการใช้พลาสติกลง

ร้านที่ Mausmoin ถ่ายรูปมาฝากชื่อ Fridi unverpackt อยู่ที่เมือง Reutlingen ประเทศเยอรมนี (เจ้าของอนุญาตให้ถ่ายรูปเรียบร้อย) เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เข้าไปแล้ว ด้านหน้าจะมีกล่องบรรจุภัณฑ์หลายขนาดแบบล้างใช้ใหม่ได้ขายอยู่ด้วย และมีลังเล็ก ๆ วางให้ลูกค้าสามารถบริจาคขวดแล้วให้คนอื่นไปใช้ต่อได้

เดินเข้าไปเรื่อย ๆ จะมีของวางขายเต็มชั้น แยกหมวดชัดเจน ทั้งของกินและของใช้ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือ ทุกอย่างวางขายแบบไม่มีบรรจุภัณฑ์ย่อยที่ไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นก็จะบรรจุในขวดแก้ว ของส่วนใหญ่ไม่มีแบ่งห่อแยกขาย แต่จะมาในบรรจุภัณฑ์รวม ลูกค้าจะนำกล่องมาเอง ใส่ตวงปริมาณที่ต้องการ จากนั้นนำไปชั่ง และจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ลดปริมาณขยะและของเหลือใช้ไปในตัว

มาลองเดินดูของไปพร้อมกับ Mausmoin และดูรูปประกอบกันเลย มีทั้ง

- หลอด ขวดน้ำ ที่เน้นว่าไม่ได้ทำจากพลาสติก และนำมาใช้ใหม่ได้

- แปรงประเภทต่าง ๆ ที่ทำจากไม้

- สมุดจดทำจากกระดาษรีไซเคิล

- เม็ดกาแฟ ใบชา

- แป้งทำอาหารและขนมแบบต่าง ๆ

- เส้นสปาเก็ตตี้แบบต่าง ๆ

- ผัก ผลไม้สด

- ผลิตภัณฑ์ปราศจากกลูเตน

- ขนมอบ ขนมหวาน

- น้ำยาทำความสะอาด มีตั้งแต่ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาล้างห้องน้ำ

- ไอศกรีมแบบตัก (ใส่ในถ้วยไอศกรีมแบบมีมัดจำ)

และอื่น ๆ

ทั่วร้านจะมีป้ายติดตลอดว่า เพื่อความอนามัย กรุณาใช้บรรจุภัณฑ์เปล่าที่ล้างสะอาดแล้ว มาใส่อาหาร (ก่อนไปชั่งน้ำหนักและชำระเงินต่อ) Mausmoin ว่ารายละเอียดเล็ก ๆ จุดนี้สำคัญมาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคและการปนเปื้อนที่อาจจะติดมากับบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้ล้างของลูกค้าแต่ละคน หรือมากับของในกล่องที่เรานำมาเติมต่อ

ใครสนใจลองเดินไปหาซื้อของกันได้ตามรายชื่อร้านไร้บรรจุภัณฑ์ในเยอรมนีตามรูป หรือใครเคยซื้อของจากร้านแนวนี้มาแล้ว ก็มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะจ๊ะ

 

 

5 วิธีประหยัดค่าทำความร้อนในฤดูหนาวนี้

รู้หรือไม่ว่า เราสามารถประหยัดค่าทำความร้อนได้มากกว่า 15% หากหลีกเลี่ยงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปนี้ได้ โดยประหยัดเงินได้มากถึง 300 ยูโรต่อปี สำหรับบ้านที่อยู่สี่คนเลยทีเดียว

1. ไม่ควรวางหรือกองของบนเครื่องทำความร้อน หรือวางเฟอร์นิเจอร์บัง หรือแม้แต่ปิดม่านกั้นการไหวเวียนอากาศจากเครื่องทำความร้อน เนื่องจากไอร้อนจะไม่สามารถกระจายไปทั่วห้องได้ ดังนั้นหากจำเป็นต้องวางเฟอร์นิเจอร์บริเวณเครื่องทำความร้อน ควรวางให้มีระยะห่างอย่างน้อย 20 ซม.

2. หน้าต่างและประตูเป็นจุดที่สูญเสียความร้อนในบ้านมากถึง 20% แม้ปัจจุบันกระจกหน้าต่างจะพัฒนาให้กั้นความร้อนออกได้ดีขึ้น แต่เราก็ยังสามารถช่วยป้องกันความร้อนรั่วไหลได้อีก โดยปิดม่านเหล็กม้วนที่หน้าต่าง และประตูในช่วงกลางคืน ซึ่งหลายคนมักจะเปิดทั้งไว้ทั้งวันทั้งคืน หากสามารถปิดม่านทุกๆจุดในบ้านได้ ก็จะสามารถประหยัดค่าทำความร้อนได้สูงถึง 5-8%

3. เครื่องทำความร้อนจะปรับความร้อนในบ้านได้เร็ว หากความชื้นของอากาศในบ้านอยู่ในระดับที่พอเหมาะ คือประมาณ 40-60% ที่ควรระวังคือ ไม่ควรแง้มหน้าต่างไว้ตลอดเวลา เพราะจะทำให้อากาศไหลเวียนออกมากเกินไป แต่ควรจะเปิดหน้าต่างให้กว้าง 3-4 ครั้งต่อวัน และในช่วงหน้าหนาวแต่ละครั้งไม่ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้นานเกิน 3-4 นาที เพื่อให้อากาศได้ไหลเวียนบ้าง แต่จะไม่ทำให้กำแพงบ้านเย็นเกินไป หากทำได้เช่นนี้ ก็จะช่วยประหยัดค่าทำความร้อนได้สูงถึง 7%

4. หลายคนหากไม่อยู่บ้าน ก็จะปิดเครื่องทำความร้อน และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะรีบเปิดเครื่องและปรับไประดับร้อนสุด เพื่อทำให้บ้านอุ่นเร็วที่สุด แต่การปรับระดับความร้อนแรงสุด ไม่ได้ทำให้บ้านอุ่นเร็วขึ้นกว่าเดิมเลย อันที่จริง ควรจะเปิดเครื่องทำความร้อนเลี้ยงตัวบ้านไว้ไม่ให้เย็นจัดจนเกินไป เครื่องจะได้ไม่ต้องใช้พลังงาน เพื่อเร่งทำความร้อนให้บ้านกลับมาอุ่นอีกครั้ง หากทำได้เช่นนี้ จะช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 10-15%

5. สิ่งที่ควรทำอีกอย่างก่อนเข้าหน้าหนาวก็คือ การปล่อยลมในตัวเครื่องทำความร้อนออก เนื่องจากตลอดปีจะมีลมค้างอยู่ในท่อน้ำในตัวเครื่อง ซึ่งจะกันไม่ให้น้ำไหลไปตามท่อได้ทั่ว ส่งผลให้ตัวเครื่องร้อนไม่ทั่ว และต้องใช้พลังงานทำความร้อนมากขึ้น การปล่อยลมทำได้โดยใช้กุญแจสำหรับปล่อยลม ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ไขไล่ลมออก เพื่อให้น้ำไหลไปได้ทั่วตัวเครื่อง และทำความร้อนได้สม่ำเสมอทั่วเครื่อง

หากใส่ใจเรื่องเล็กๆ เหล่านี้ ก็ช่วยโลกประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อนได้ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเราได้อีกด้วย

Quelle&Foto: 1.Wdr.de