มาสเตอร์การ์ดเริ่มใช้เซลฟี่/สแกนลายนิ้วมือในการจ่ายเงิน

มาสเตอร์การ์ดเริ่มให้ชำระเงินออนไลน์ ผ่านเซลฟี่หรือสแกนลายนิ้วมือแทนรหัสผ่าน ในยุโรปแล้ว

มาสเตอร์การ์ด ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เริ่มให้ลูกค้าชำระเงินเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านการถ่ายรูปเซลฟี่หรือการสแกนลายนิ้ว ใน 12 ประเทศทั่วยุโรปแล้ว

วันนี้ (4 ต.ค.) ทางบริษัทมาสเตอร์การ์ดได้แถลงว่า “การกรอกรหัสผ่านจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ลูกค้าผู้ถือบัตรจะสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้เร็วขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นด้วย”

ลูกค้าบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด จะใช้แอพพลิเคชั่นชื่อ Identity Check ในการยืนยันตัวบุคคลผ่านการสแกนลายนิ้วมือบนปุ่มสแกนลายนิ้วมือในมือถือสมาร์ทโฟน หรือจะเลือกถ่ายเซลฟี่เพื่อยืนยันบุคคลผ่านใบหน้าก็ได้ เป้าหมายของระบบดังกล่าวก็เพื่อจะทำให้ลูกค้าบัตรมาสเตอร์การ์ดมีประสบการณ์ในการชำระเงินออนไลน์อย่างราบรื่นที่สุด โดยไม่ลดความปลอดภัยในการจ่ายเงินออนไลน์ลง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท มาสเตอร์การ์ดระบุ

12 ประเทศที่สามารถใช้การชำระเงินผ่านเซลฟี่และสแกนลายนิ้วมือได้แก่ เยอรมนี ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เดนมาร์ก สาธารณรัฐเช็ก สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ ฮังการี นอร์เวย์ สเปน และสวีเดน

เทคโนโลยีดังกล่าวได้ทดสอบใช้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และแคนาดาแล้ว และเตรียมจะให้บริการทั่วโลกในช่วงปลายปีค.ศ. 2017

มาสเตอร์การ์ดเชื่อว่า ลูกค้าหลายรายให้ความสนใจในระบบการยืนยันตัวตนดังกล่าว ผลการทดสอบและสำรวจจากบริษัทชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคในยุโรปเริ่มค่อยๆ ชอบใช้ระบบการจ่ายเงินผ่านการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าหรือลายนิ้วมือ มากกว่าการใช้รหัสผ่านที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

Quelle: faz.net, Foto: money.cnn.com

เยอรมันแนะให้ตุนอาหารและน้ำรับมือเหตุฉุกเฉิน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมันประกาศให้ประชาชนเตรียมเสบียงอาหารและน้ำดื่มไว้ยามจำเป็น เพื่อพร้อมรับมือหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือการก่อการร้าย ที่รัฐอาจเข้ามาช่วยเหลือประชาชนไม่ทันท่วงที

โดยแนะให้ประชาชนเตรียมอาหารเผื่อไว้สำหรับ 10 วัน และน้ำดื่มสำหรับ 5 วัน วันละ 2 ลิตรต่อคน นอกจากนี้ ยังแนะนำให้เตรียมยารักษาโรค ผ้าห่ม เทียน แบตสำรอง เงินสดสำรอง วิทยุใส่ถ่านที่สามารถติดตามข่าวสารจากทางการได้กรณีไม่มีไฟฟ้า เผื่อติดบ้านไว้ นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีหลังจากที่เคยประกาศใช้นโยบายดังกล่าวครั้งล่าสุดเมื่อช่วงหลังสงครามเย็น ค.ศ. 1989

ปริมาณอาหารและน้ำที่แนะนำให้ตุนเสบียงต่อคน:

น้ำ 28 ลิตร

แป้ง/เส้น 5 กก.

ผักกระป๋อง 5,6 กก.

ผลิตภัณฑ์นม 4 กก.

เนื้อ 2 กก.

หรือคำนวณปริมาณการตุนอาหารและน้ำดื่มต่อคน ต่อวัน ได้ที่นี่: http://www.ernaehrungsvorsorge.de/private-vorsorge/notvorrat/vorratskalkulator/#x2665;_blank

คำแนะนำเพื่อเตรียมรับมือ และการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน (PDF): http://www.bbk.bund.de/SharedDocs/Downloads/BBK/DE/Publikationen/Broschueren_Flyer/Buergerinformationen_A4/Ratgeber_Brosch.pdf?__blob=publicationFile

Checklist เพื่อเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน (PDF): http://www.bbk.bund.de/SharedDocs/Downloads/BBK/DE/Publikationen/Broschueren_Flyer/Buergerinformationen_A4/Checkliste_Ratgeber.pdf?__blob=publicationFile

ในขณะที่บางส่วนเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว และเตรียมซื้อของตุนไว้ ก็มีทั้งประชาชนและสื่อหลายฝ่ายที่ไม่พอใจ และไม่เห็นด้วย เช่น หัวหน้าพรรค Die Linke ที่ออกมาแสดงความเห็นขัดแย้งว่า การประกาศดังกล่าวจะทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่รัฐบาลควรกระทำ

Quelle [ที่มา]: http://www.welt.de/politik/deutschland/article157781100/Bevoelkerung-soll-Lebensmittel-Vorraete-fuer-zehn-Tage-anlegen.html

http://www.welt.de/politik/deutschland/article157809984/Beim-Schutzplan-geht-es-um-mehr-als-Hamsterkaeufe.html

https://www.tagesschau.de/inland/zivilschutz-101.html

http://www.bbk.bund.de/DE/Ratgeber/Handeln_in_Katastrophen/Handeln_in_Katastrophen.html

2016-08-26