Weihnachtsmarkt [ตลาดคริสต์มาส]

weihnachtsmarkt mm

ฤดูหนาวกับตลาดคริสต์มาสในเยอรมัน

เยอรมันกำลังเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว อุณหภูมิอยู่ในช่วงเลขตัวเดียว อาทิตย์ที่แล้วก็เริ่มมีหิมะ ต้นไม้เหลือแต่กิ่งก้าน หากมองในด้านดี ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ทึมๆ ฟ้าเริ่มมืดตั้งแต่ก่อนสี่โมงเย็น เราจะได้ไปเดินเที่ยวชมการประดับไฟสวยๆ ตามกลางเมืองและที่ตลาดคริสต์มาส (Weihnachtsmarkt) ซึ่งจะจัดขึ้นประมาณ 1 เดือนก่อนถึงวันคริสต์มาส โดยแต่ละเมืองแต่ละรัฐอาจมีวันเริ่มจัดงาน ระยะเวลา และลักษณะการตกแต่งงานแตกต่างกันไป เช่น บางเมืองจัดเป็นแนวบาโรค หรือบางที่จัดแนวย้อนยุคไปช่วงยุคกลาง

ความน่ารักในตลาดคริสต์มาส

หากใครอยากได้อารมณ์เทศกาลหน้าหนาว ก็สามารถเดินชมร้านต่างๆ ที่ตั้งเป็นกระท่อมเล็กๆ วางเรียงกัน เดินดูหลังคาร้านค้าที่ประดับตกแต่งดึงดูดผู้คนให้เดินเข้าไปดูใกล้ๆ และอุดหนุน มีตั้งแต่ซานต้าบนรถเลื่อนพร้อมกวางเรนเดียร์ กลุ่มหมีน้อยเต้นระบำและเป่าลูกโป่งฟองสบู่ กองขวัญขวัญสีสันสดใสใต้ต้นคริสต์มาส และสารพัดความคิดสร้างสรรค์มากมาย ซึ่งล้วนถูกสรรสร้างอยู่บนหลังคากระท่อมแต่ละหลังอย่างจัดเต็มแต่ลงตัว

ซื้อของในตลาดคริสต์มาส

เราสามารถเดินเล่น จับจ่ายซื้อของขวัญคริสต์มาสกันในตลาด มีตั้งแต่ขายใบชา ตุ๊กตา เครื่องกันหนาว ของทำมือ เครื่องหนัง ไม้แกะสลัก เครื่องครัว ของเล่นเด็ก ถ้วยชาม หรือแม้กระทั่งของฝากและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เรียกได้ว่าตลาดนี้เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย (และทุกตัว)

มีอะไรให้ลองดื่มบ้าง

ระหว่างเดินเที่ยวชม พลาดไม่ได้ที่จะต้องลิ้มลองขนม อาหาร และเครื่องดื่มเด็ดๆ อุ่นๆ หอมๆ ที่จะมีให้ทานเฉพาะช่วงเทศกาลนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Glühwein ไวน์ต้มร้อน อาจแซมด้วยกลิ่นหอมๆ ของผลไม้ หรืออบเชย รสชาติแตกต่างกันไปตามสูตรของแต่ละร้าน, Kinderpunsch พั้นซ์ต้มร้อน รสหวานหอมอมเปรี้ยว เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์, Eierlikör เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อน มีส่วนผสมของไข่แดง น้ำตาล หรือน้ำผึ้ง ,และ Feuerzangenbowle หรือ Glühwein ที่เพิ่มการราดเหล้ารัมไปบนก้อนน้ำตาลแล้วจุดไฟให้กลายเป็นคาราเมลไหลลงไปในไวน์ร้อน รสชาติหอมหวานเข้มข้น

มีขนมอะไรบ้าง

ส่วนขนมก็จะมีตั้งแต่ สายไหมพันไม้ฟูๆ (Zuckerwatte), ช็อกโกแลต, ผลไม้เสียบไม้เคลือบช็อกโกแลต, เครป, วัฟเฟิลร้อนๆ, ถั่วคั่วน้ำตาล (gebrannte Nüsse) ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย ถั่วลิสง วอลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งแต่ละร้านก็สรรหาสูตรคั่วให้แตกต่างกันไปเรื่อยๆ เช่น รสวานิลลา รสนูเทลล่า รส Ferrero และรสดั้งเดิมอย่าง Wiener Mandeln ถั่วอัลมอนต์คั่วน้ำตาลกรอบๆ หอมๆ ไม่หวานมาก ทานแล้วอาจวางไม่ลง

มีอาหารอะไรให้ชิมบ้าง

เรื่องอาหารก็จะเป็นพวกอาหารร้อนๆ ทานแล้วอุ่นสบาย ซึ่งมีให้ทานทั่วไปตามงานเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอกย่าง, ผัดเห็ด Champignon, Flammkuchen คล้ายๆ พิซซ่าแต่จะบางและกรอบกว่า, หมูเสียบไม้, ปลาย่าง, Stockbrot ขนมปังเสียบไม้ ย่างกันสดๆ มีรสหวานและรสเค็มให้เลือก ซึ่งขนมปังย่างนี้มักให้ความรู้สึกย้อนความหลังถึงความสนุกสมัยเด็กๆ ของชาวเยอรมันที่นั่งย่างแป้งพันไม้กับครอบครัวหรือเพื่อนๆ จนสุกกลายเป็นขนมปังหอมๆ อร่อยๆ

ฤดูหนาวแบบนี้ หลายคนอาจอยากจะซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่หากใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเล่นดูบ้างก็สามารถตรวจสอบวันเวลาจัดงานตลาดคริสต์มาสตามเมืองต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ของเมืองนั้นๆ เช่น

Stuttgart: http://stuttgarter-weihnachtsmarkt.de/de/home/

Ulm: http://www.ulmer-weihnachtsmarkt.de/de/

Freiburg: http://www.weihnachtsmarkt.freiburg.de/pb/,Lde/464466.html

Esslingen: https://www.esslingen-marketing.de/mwm

Zeitumstellung auf Winterzeit! ปรับเวลาหน้าหนาว

15.10.23 Zeitumstellung auf winterzeit

Zeitumstellung auf Winterzeit!

คืนวันเสาร์นี้! เพื่อนๆ ในยุโรปอย่าลืมเปลี่ยนเวลาตอนตี 3 ช้าลง 1 ชั่วโมงนะครับ มีเวลานอนเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมงนั่นเอง
เรากำลังจะเข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะครับ 🙂

-------------------------------------------
หนังสือ & ebook เรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ 1&2 หาซื้อได้แล้วที่ร้านนายอินทร์,https://mausmoin.com/ebook/, naiin.com, amazon.com, ookbee.com

ข่าวเด่น สำหรับเพื่อนๆ ที่เยอรมัน ก.ย. 2015

fb news kindergeld

Mehr Kindergeld

ผู้ปกครองจะได้เงินเลี้ยงดูบุตรเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2015 เป็นต้นไป อีกทั้งจะมีการจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตรที่เพิ่มขึ้นย้อนหลังไปจนถึงเดือนมกราคม ค.ศ. 2015 ด้วย

ในเยอรมนีมีผู้มีสิทธิ์รับเงินเลี้ยงดูบุตรราว 8.9 ล้านคน โดยตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป เงินเลี้ยงดูบุตรจะเพิ่มขึ้น 4 ยูโรต่อเดือนต่อบุตร และจะเพิ่มขึ้นอีก 2 ยูโรต่อบุตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2016 เป็นต้นไป

ดังนั้นค่าเลี้ยงดูบุตรคนแรกและคนที่สองจะเพิ่มขึ้นจาก 184 ยูโร เป็น 188 ยูโร สำหรับบุตรคนที่ 3 จะเพิ่มจาก 190 ยูโรเป็น 194 ยูโร และสำหรับบุตรคนถัดๆ ไป จะเพิ่มจาก 215 ยูโรเป็น 219 ยูโรต่อเดือน

จากนั้นตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2016 เป็นต้นไป ค่าเลี้ยงดูบุตรจะเพิ่มขึ้นเป็น 190 ยูโรสำหรับบุตรคนแรกและคนที่สอง สำหรับบุตรคนที่สามเป็น 196 ยูโร และสำหรับบุตรคนถัดๆ ไป จะเพิ่มเป็น 221 ยูโร

ผู้เลี้ยงดูบุตรจะได้รับเงินเพิ่มตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป และจะได้รับเงินที่เพิ่มขึ้นย้อนหลังของเดือนมกราคมถึงสิงหาคมภายในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งนี้เงินเลี้ยงดูบุตรจะปรับเพิ่มขึ้นอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการยื่นเรื่องเพิ่มเติมแต่อย่างใด

สรุปคำศัพท์ (A1):
das Kindergeld = เงินเลี้ยงดูบุตร
der Januar = เดือนมกราคม
der September = เดือนกันยายน
der Oktober = เดือนตุลาคม
der Monat = เดือน
monatlich = รายเดือน

เรียนเยอรมันได้ที่: https://mausmoin.com/
หนังสือ & ebook เรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์: https://mausmoin.com/ebook/

Quelle: http://www.welt.de/wirtschaft/article145803408/Das-aendert-sich-in-Deutschland-am-1-September.html

เตรียมสอบเยอรมันระดับ A2-B1| Deutsch-Test für Zuwanderer

dtzb1 500x500 90dpi 

วันนี้ผมมีโอกาสพูดคุยกับพี่ตรีที่เพิ่งสอบวัดระดับเยอรมัน Deutsch-Test für Zuwanderer (DTZ) ระดับ A2-B1 ผ่าน แม้จะเพิ่งเริ่มเรียนเยอรมันมาได้เพียง 1 ปีครึ่ง และยังเลี้ยงลูกเล็กไปพร้อมๆ กับการเตรียมตัวสอบเพียง 3 เดือนอีกด้วย พี่ตรีแบ่งเวลาอย่างไร มีเทคนิคการเตรียมสอบอย่างไร เรามาคุยกับเธอกันครับ

 

mausmoin head 100เม้าส์มอยน์: ดีใจด้วยกับความสำเร็จนะครับ พี่ตรีเริ่มเรียนเยอรมันตั้งแต่เมื่อไหร อยู่เยอรมนีมากี่ปีแล้วครับ

 

พี่ตรี: เริ่มเรียนเยอรมันตั้งแต่ ตุลาคม ปี 2014 และอยู่เยอรมนีมาประมาณ 1 ปีครึ่งค่ะ 

 

mausmoin head 100เม้าส์มอยน์: มีเวลาเตรียมตัวนานแค่ไหน มีอุปสรรคบ้างไหม และแบ่งเวลาอ่านหนังสืออย่างไรครับ

 

พี่ตรี: เวลาที่เตรียมตัวสอบจริงๆ ประมาณ 3 เดือนก่อนสอบ คิดว่าถ้าไม่ตั้งใจเรียนคงสอบไม่ผ่านแน่นอน เนื่องจากเรามาอยู่เยอรมนีด้วยวีซ่าติดตามบุตร ทำให้ไม่ต้องสอบเยอรมันระดับ A1 ที่ประเทศไทย พื้นฐานภาษาเยอรมันจึงมีน้อยมาก ที่เยอรมนีเราต้องเลี้ยงลูกอายุ 4 เดือน ไปเรียนภาษาที่โรงเรียนช่วงเย็นเวลา 17.30-21.30 น. ดังนั้นเวลาอ่านหนังสือ คือเวลาที่ลูกนอน และหลังเลิกเรียน หรือ 22.00 น. เป็นต้นไป

ต้องบอกว่าเหนื่อยมาก รวมทั้งเรียนไม่รู้เรื่องด้วย อีกทั้งเราเป็นคนไม่ชอบคุยชอบพูดก็เลยแย่กันไปใหญ่ พอใกล้จะถึงเวลาสอบ วิตกกังวลมาก  เลยตั้งใจและทุ่มเทมากให้กับการเตรียมตัวสอบ เพราะรู้ว่าถ้าไม่ตั้งใจคงต้องเสียใจอย่างมากถ้าสอบไม่ผ่าน และคนรอบข้างก็คงเสียใจด้วย

โดยเราก็มาพิจารณาตัวเองว่าตอนนี้ภาษาเราอยู่ระดับไหน ผลก็คือภาษาเรายังอ่อนมาก จึงรู้ตัวว่านอกจากเรียนปกติแล้วคงยังไม่เพียงพอ เราต้องหาครูมาติวสำหรับการสอบของเราด้วย มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ณ เวลาที่เหลืออันน้อยนิด โดยเราต้องตั้งใจอย่างจริงจัง และความฝันก็เป็นจริงค่ะ สอบผ่านมาจนได้

 

mausmoin head 100เม้าส์มอยน์: มีเทคนิคเตรียมตัวสอบแต่ละทักษะอย่างไร และเมื่อทำข้อสอบจริง มีการปรับใช้อย่างไรบ้างครับ  

 

พี่ตรี: การเตรียมสอบเราต้องฝึก ฟัง อ่าน เขียน และพูดให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และหาข้อสอบมาฝึกทำให้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้เราได้รู้แนวข้อสอบจริง

 

ทักษะการฟัง

ฟังวิทยุและดูโทรทัศน์ ให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้คะ และฝึกฟังข้อสอบ การฝึกฟังทุกวันนั้นดีมาก เพราะจะทำให้เราฟังได้ดีขึ้นค่ะ

ทักษะการอ่าน

พี่ตรีไปฝึกอ่านหนังสือให้แม่แฟนฟังช่วงกลางวัน และอ่านให้แฟนฟังช่วงหลังเลิกเรียน ตอนทำข้อสอบให้อ่านข้อสอบให้เร็วและพยายามจับใจความสำคัญ เพราะเวลามีน้อย ทำข้อที่ง่ายก่อน ส่วนข้อที่ยากเก็บไว้ทำที่หลัง ถ้าจำคำศัพท์ได้มาก ก็จะช่วยได้เยอะเลย ที่สำคัญควรฝึกทำแนวข้อสอบเยอะๆ ค่ะ

ทักษะการเขียน

ฝึกเขียนจดหมายให้มากที่สุดและเขียนให้เยอะที่สุดในแต่ละฉบับ (ยังจำได้ช่วงแรกของการฝึกเขียนจดหมาย ใช้เวลาตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึงตี 2 เขียนมาได้ 1 หน้ากระดาษ แต่พอเขียนบ่อยๆ เขียนทุกวัน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ) หลังจากเขียนเสร็จ ก็ให้แฟนช่วยตรวจให้ เทคนิคการเตรียมสอบคือ ฝึกเขียนจดหมายในสถานการณ์ต่างๆ และจำคำขึ้นต้นและคำลงท้ายจดหมายให้ได้ ส่วนประโยคข้อมูลการติดต่อเรา ที่สามารถใช้ได้กับจดหมายหลายๆ สถานการณ์ ก็ฝึกเขียนไว้เลยค่ะ เช่น  

หรือประโยคที่ใช้บ่อยๆ เช่น

  • Könnten Sie mir sagen, …………...? (กรุณาบอกดิฉันหน่อยได้ไหมคะ ว่า….)
  • Was halten Sie davon, ……………..? (คุณมีความเห็นอย่างไรต่อเรื่อง…)
  • และพยายามใช้พวกคำเชื่อมประโยคที่เราได้เรียนมาด้วย เช่น deshalb (ดังนั้น), trotzdem (แม้กระนั้น), weil (เพราะ) 

ทักษะการพูด

ฝึกพูดกับคนที่บ้านให้มากที่สุด โทรไปคุยกับเพื่อนที่โรงเรียนและญาติแฟน ส่วนข้อสอบพูดแต่ละส่วนพี่ตรีฝึกดังนี้ค่ะ

  • ส่วนที่ 1 ฝึกแนะนำตัวเองให้คล่อง ให้ถูกต้องและชัดเจน Tipp: VDO ฝึกแนะนำตัว
  • ส่วนที่ 2 อันนี้ยากหน่อย ไม่รู้ว่าเราจะได้รูปอะไร เราต้องหารูปภาพต่างๆ มาฝึกพูดให้เยอะค่ะ
  • ส่วนที่ 3 ฝึกพูดสถานการณ์ต่างๆ กับเพื่อนในห้องเรียนให้เยอะค่ะ

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: Mausmoin.com มีส่วนช่วยในการเตรียมตัวสอบได้บ้างไหมครับ

          

พี่ตรี: Mausmoin.com ช่วยในการสอบได้มากเลยค่ะ เนื้อหาอ่านเข้าใจง่ายและสรุปใจความสำคัญได้ดีมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนด้วยตัวเองได้ หรือถ้าต้องการเรียนเพิ่มก็ติดต่อเรียนกับคุณครูศิรินได้ค่ะ

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: สุดท้ายอยากให้พี่ตรีส่งกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเยอรมัน DTZ ระดับ A2-B1 ครับ

 

พี่ตรี: ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คน สู้ๆ นะคะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ ถ้ามีเวลาเตรียมตัวสอบเยอะ ก็ให้ทบทวนบทเรียนและพูดคุยกับคนเยอรมันเยอะๆ ถ้าเวลามีน้อยก็ต้องฝึกทำข้อสอบ B1 เยอะๆ หาได้ทางอินเตอร์เนตค่ะ หรือจะติวสอบ B1 กับคุณครู ก็ทำให้เรารู้แนวข้อสอบมากขึ้น และเรียนรู้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ท้อได้นะคะแต่ห้ามถอยเด็ดขาด ให้นึกถึงวันที่เราสอบผ่านเข้าไว้ ต้องขยันและตั้งใจ ก็จะทำได้แน่นอนค่ะ ตรีก็ยังพูดไม่ค่อยเก่ง ยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเช่นกันค่ะ สุดท้ายนี้ก็ขออวยพรให้ทุกๆ คนสอบผ่านนะคะ

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: ขอบคุณมากครับพี่ตรี 🙂 

ซื้อหนังสือเรียนเยอรมัน | Deutschlehrbücher kaufen

160426 BOOKS 96x64 หนังสือและอีบุ๊คเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์เล่ม 1 และ 2 วางขายแล้ว ตามคำเรียกร้องของหลายๆ คน ที่ถนัดอ่านบทเรียนจากหนังสือเป็นเล่มๆ ทบทวนได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ หรือต่ออินเตอร์เนต พิเศษ! ตารางสรุปหลักไวยากรณ์และคำศัพท์ท้ายเล่ม วางจำหน่ายทั้งในไทย ยุโรป และฉบับอีบุ๊ค ติดต่อซื้อหนังสือ Line/Facebook: mausmoin, info@mausmoin.com

ซื้อเลย!:

ซื้อหนังสือที่ไทย

ซื้อหนังสือในเยอรมัน ยุโรป อเมริกา

ซื้อฉบับอีบุ๊ค ได้ทั่วโลก

โปรโมชั่นพิเศษ คอร์สติวสอบเยอรมัน A1

icon_german  Deutschlehrbücher für Thailänder kaufen ("Deutsch lernen mit Mausmoin 1-2") 

จุดเด่นของหนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์

“เม้าส์มอยน์จะทำภาษาเยอรมันที่ว่ายาก ให้ง่ายและสนุกขึ้น”

หนังสือเรียนภาษาเยอรมันด้วยตนเองในระดับพื้นฐาน ที่ออกแบบให้ผู้เรียนคนไทย เรียนเยอรมันอย่างเข้าใจง่าย สนุก เป็นขั้นเป็นตอน พัฒนาภาษาเยอรมันของตนได้ตั้งแต่เริ่มต้น เข้าใจหลักภาษาเยอรมัน นำความรู้ไปใช้ได้จริง และเป็นพื้นฐานต่อยอดการเรียนไปในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"เรียนง่าย เข้าใจ ใช้ได้จริง"

  • เรียนง่าย: ผู้อ่านสามารถเริ่มเรียนภาษาเยอรมันได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐานมาก่อน
  • เข้าใจ: 4 ขั้นตอนการเรียนในแต่ละบท (บทสนทนา, คำอธิบาย, ทบทวน, และแบบฝึกหัดพร้อมเฉลย) จะช่วยให้เรียนเยอรมันเข้าใจและมีประสิทธิภาพ
  • ใช้ได้จริง: สามารถนำบทสนทนาและบทเรียนไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

เนื้อหาเล่ม 1: ระดับ A1 (ง่าย-ปานกลาง) บทที่ 1-4 นำบทสนทนา หลักภาษาไปใช้เตรียมสอบเยอรมัน A1 และใช้ในชีวิตประจำวัน

เนื้อหาเล่ม 2: ระดับ A1 (ปานกลาง-ยาก) บทที่ 5-8 เนื้อหาต่อจากเล่ม 1 เข้มข้น ใช้เตรียมสอบ และเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับเรียนเยอรมันระดับ A2 ต่อไป

ไม่ว่าจะอยู่ไทย เยอรมัน ยุโรป อเมริกา หรือฉบับอีบุ๊ค ก็สามารถหาซื้อหนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ทั้ง 2 เล่ม ได้ตามช่องทางต่อไปนี้

mm books 1-2 64X64.svgซื้อหนังสือที่ไทย

หนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์เล่ม 1 ราคาปก 239 บาท | เล่ม 2 ราคาปก 249 บาท

ISBN เล่ม 1: 978-6161809300 | ISBN เล่ม 2: 978-6161809249

mm books 1-2 64X64.svgซื้อหนังสือในเยอรมัน ยุโรป อเมริกา

ที่ไหนมี Amazon ที่นั่นมีหนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ เล่ม 1 และ 2 สั่งซื้อหนังสือเม้าส์มอยน์ทางออนไลน์ง่ายๆ จัดส่งรวดเร็ว 1-3 วันได้ พิเศษ! ค่าส่งฟรีในเยอรมัน 

หนังสือ Deutsch lernen mit Mausmoin 1 และ 2 ราคาเล่มละ 9.99 ยูโร

  • ซื้อในเยอรมัน และยุโรป: amazon.de
  • ซื้อในอเมริกา: amazon.com
  • ซื้อในอังกฤษ: amazon.co.uk

ISBN เล่ม 1: 978-1515162209 | ISBN เล่ม 2: 978-1515189213

หรือหากไม่สะดวกซื้อทาง amazon ติดต่อเราที่ Line ID: mausmoin, info@mausmoin.com

15.10.15 E-book1 IPAD ซื้อฉบับอีบุ๊ค & ทั่วโลก

สำหรับคนรักอีบุ๊ค Ookbee และ Mebmarket เป็นอีกช่องทางสำหรับซื้อหนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ เล่ม 1 และ 2 ความละเอียดสูง เพียงเปิด App ก็สามารถอ่านบทเรียนเม้าส์มอยน์ได้ โดยไม่ต้องต่ออินเตอร์เนต มีให้เลือกซื้อจากสอง Apps คือ Ookbee และ Mebmarket

ebook เรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ เล่ม 1 ราคาปก 239 บาท | เล่ม 2 ราคาปก 249 บาท

  • ซื้อและโหลดอีบุ๊คทาง Ookbee ได้ที่นี่: เล่ม 1 | เล่ม 2
  • วิธีการดาวน์โหลดอีบุ๊ค หลังซื้อหนังสือทาง Ookbee.com
    1. ติดตั้ง app ookbee สีแดงส้ม
    2. sign in account mail ที่เป็นสมาชิกเข้าระบบ
    3. กดที่ปุ่ม 3 ขีดซ้ายมือ หัวข้อ My library และเลือกหัวข้อ All
    4. หนังสือจะอยู่ที่หัวข้อ Book

Mebmarket ช่องทางใหม่สำหรับซื้อ ebook เรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ เล่ม 1 และ 2

ISBN เล่ม 1: 978-616-568-843-7 | ISBN เล่ม 2: 978-616-568-841-3

สั่งซื้อหนังสือ &ติดต่อเรา

สอบถามการซื้อหนังสือ และอื่นๆ ได้ทาง สไกป์ | Skype ID: Mausmoin,  ไลน์ | Line ID: Mausmoin,  อีเมล์ | E-Mail: info@mausmoin.com, โทร (ในเยอรมนี) | Call us: +49 (0) 176 31176234,  Facebook: Mausmoin

ตัวอย่างหนังสือด้านใน


คอร์สเรียนเยอรมัน | Deutschkurse für Thailänder!

Warum lernst du Deutsch? ทำไมคุณจึงเรียนภาษาเยอรมัน

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ร่วมสนุกตอบคำถาม "ทำไมจึงเรียนภาษาเยอรมัน?" ชิงรางวัล e-book เรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ เล่ม 2

ข้อมูลจากความเห็นของเพื่อนๆ ทั้งหมด 33 คน สรุปได้ดังนี้ 

why german?

ความเห็น จำนวน
เรียนต่อ 8
สื่อสารในชีวิตประจำวัน 8
เพื่องานที่ดี 7
เป็นภาษาที่ 3 ที่สำคัญ 7
เตรียมตัวมาเยอรมนีในอนาคต 6
เพื่ออนาคตที่ดี 6
ติดตามครอบครัว 4
เพื่อสอนลูก 4
เปิดโลก เรียนรู้จากเยอรมนี 3
น่าสนุก 3

ไม่ว่าเป้าหมายการเรียนเยอรมันของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร ขอให้ทุกคนสู้ๆ และสนุกกับภาษาเยอรมันไปด้วยกันนะครับ!

และผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล e-book เรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ เล่ม 2 คือ คุณ Schmölz Phannee และคุณ Thainy Preedeewong ติดต่อกลับทาง message ได้เลยครับ

mausmoin.com สนับสนุนให้เพื่อนๆ มีอนาคตที่สดใสไปกับการเรียนเยอรมัน

หนทางสู่ความสำเร็จแบบฉบับชาวเยอรมัน | Schritte zum Erfolg

success

จากรายการเลียนแบบชีวิตชาวเยอรมัน โดยครอบครัวนักข่าวชาวอังกฤษ ที่เดินทางมาทดลองใช้ชีวิต ทำงาน ส่งลูกไปเรียนในเยอรมัน เป็นระยะเวลาหนึ่ง หากจะพิสูจน์ที่มาของความสำเร็จของชาวเยอรมัน ใน 1 ชั่วโมง คงเป็นไปได้ยาก แต่มีหลายสิ่งที่แสดงเห็นได้ว่า การใช้ชีวิตแบบเยอรมัน สามารถนำไปสู่ความสำเร็จในหลายๆ ด้านได้ และเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็เลียนแบบได้ไม่ยาก 

ครูศิรินสรุปเรื่องราวบางส่วนจากสารคดี และเพิ่มเติมเนื้อหาจากประสบการณ์ ที่ได้เรียนรู้เองจากการอาศัยอยู่ในเยอรมัน มาลองเดินไปบนหนทางแห่งความสำเร็จ พร้อมๆ กันเลย 

1. การทำงาน: ทำงานอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูง

เรื่องการไปทำงานก่อนเวลาเล็กน้อย หรือการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับแรกๆ ของความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะการเริ่มงานวันแรก คนเยอรมันมักศึกษาเส้นทางล่วงหน้า ตื่นนอนให้เช้าขึ้น และวางแผนการเดินทางให้ไปถึงที่หมาย อย่างราบรื่บและภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะทำให้มีเวลาเตรียมตัวก่อนเริ่มงาน และพร้อมทำงานอย่างมั่นใจ สบายใจ

ระหว่างชั่วโมงทำงาน คนเยอรมันจะมุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ให้เสร็จทีละอย่าง หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ทำเรื่องส่วนตัว ไม่เล่นอินเตอร์เนต หรือเฟซบุ๊ก ไม่นอกเรื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในห้องประชุม หรือระหว่างเวลาทำงาน แต่ในช่วงพัก จะพักเต็มที่ ทานอาหาร คุยเรื่องต่างๆ และตั้งใจทำงานอีกครั้งเมื่อกลับเข้าทำงานต่อ

โดยทั่วไป ชั่วโมงทำงานจะอยู่ที่ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน หากไม่ต้องเข้างานเป็นกะ พนักงานจะสามารถบริหารช่วงเวลาทำงานเอง มาเช้า ก็เลิกงานเช้าได้

หลังเลิกงาน คนเยอรมันมักจะกลับบ้านหาลูกๆ หรือทำงานอดิเรกที่ตนชอบ หรือเข้ากลุ่มกิจกรรมที่ตนสนใจ เช่น ชมรมร้องเพลง เกมกระดาน 

หากมองโดยเฉลี่ยแล้ว คนเยอรมันทำงานประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน มีเวลาเหลือให้ครอบครัว และสิ่งที่ตนสนใจ การเดินทางไปทำงาน สามารถวางแผนเวลาได้ค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากระบบคมนาคม เช่น รถประจำทาง รถไฟ รถราง ส่วนใหญ่มาตรงเวลา (ถ้าไม่มีประท้วงหยุดเดินรถหรือเหตุขัดข้อง) การจราจรทางถนน ก็มักจะไม่ติดขัดมาก (ไม่เท่าในกรุงเทพ)

 

2. เงินๆ ทองๆ และบ้าน: ใช้เงินอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่สร้างหนี้

ส่วนใหญ่ชาวเยอรมันมักจะใช้ชิวิตบนความแน่นอน มั่นคง ปลอดภัย ไม่สร้างหนี้

บัตรเครดิตมักไม่เป็นที่นิยม สำหรับชาวเยอรมัน แต่มักจะจ่ายเงินสด หรือบัตรเดบิต ตัดเงินในบัญชี (EC-Karte) ในการจับจ่าย

ที่อยู่อาศัย มักเป็นไปตามกำลังทรัพย์ และแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ บางคนอาจนิยมซื้อบ้านจากเงินเก็บที่มี หรือทำงานสะสมเงินเพื่อปลูกบ้าน หลังพออยู่สบาย หากมีห้องเหลือ หรือลูกๆ ย้ายออกไปอยู่เอง มักเปิดห้องให้เช่า บ้านส่วนใหญ่จะแยกเป็นสัดส่วน มีส่วนที่เป็นส่วนตัว และมีส่วนที่ใช้ร่วมกันระหว่างเจ้าของกับผู้เช่า เช่น ทางเดินบันได ทางเข้า สวนบางส่วน ห้องใต้ดิน ห้องซักผ้า

การเช่าที่อยู่อาศัย ยังคงเป็นเรื่องปกติ สำหรับชาวเยอรมัน อาจเช่ายาวเป็นสิบๆ ปี แม้บางคนชอบที่จะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่หลายๆ คนก็ยังนิยมเช่าบ้าน ด้วยเหตุผลหลายๆ ด้าน ทั้งย้ายเมืองไปเรียนต่อ ไปทำงาน ยังไม่พร้อมลงหลักปักฐาน หรือปัจจัยเรื่องเงินเก็บ เป็นต้น 

การกู้เงินมาสร้างบ้าน ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวเยอรมันนัก โดยเฉพาะชาวชเวบิช (Schwäbisch) ในรัฐ รัฐบาเดน-เวือร์ทเทมแบร์ก (Baden Würrtemberg) กับสำนวน "Schaffe, schaffe, Häusle baue" ซึ่งหมายถึง ทำงานเพื่อจะสร้างบ้านหลังน้อยๆ

 

3. การศึกษา: เรียนอย่างไร ให้มีเวลา และรู้จักจุดเด่นของตนเอง

สำหรับเด็กๆ ส่วนใหญ่จะเรียนครึ่งวัน เลิกเรียนเร็ว มีเวลาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำการบ้าน ทำงานอดิเรก เล่นกีฬากับเพื่อนๆ เดินเล่นสวนสาธารณะกับพ่อแม่ ไม่นิยมไปเรียนพิเศษ หรือเรียนกวดวิชา นอกจากจำเป็นจริงๆ อาจมีชั่วโมงเพิ่มเติม

ในระดับอุดมศึกษา อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด อาจไม่ใช่ประเด็นหลักในการเลือกคณะหรือมหาวิทยาลัยที่จะสมัครศึกษาต่อ หลายๆ คนมักเลือกที่เรียนต่อจากคณะที่ตนสนใจ บางคนอาจเลือกมหาลัย ที่ไม่ไกลจากเมืองที่ตนอยู่ หรือบางคนอาจเลือกมหาลัยที่ตนชอบ หรือมีชื่อเสียงเก่าแก่ในด้านนั้นๆ

ลักษณะการเรียนการสอน มีทั้งแบบเน้นการอภิปราย การแสดงความคิดเห็นเป็นตัวขับเคลื่อนการเรียน ในห้องขนาดเล็กถึงกลาง และแบบอาจารย์พูดหน้าชั้นในห้องเรียนรวมขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเปิดกว้างทางความคิด การยกมือถามในห้อง การแสดงความคิดเห็น ระหว่างอาจารย์และนักศึกษามักเห็นได้ทั่วไปในห้องเรียน

หากมหาวิทยาลัยอยู่คนละเมืองกับบ้าน นักศึกษาจะไปเช่าที่อยู่ในเมืองที่ตนเรียน มีตั้งแต่หอของมหาวิทยาลัย ห้องเช่าอยู่ด้วยกันหลายๆ คน (Wohngemeinschaft) ที่จะใช้ห้องน้ำ ห้องครัวร่วมกัน ห้องแบ่งเช่าตามบ้าน ไปจนถึงห้องพักแบบอพาร์ตเมนต์ส่วนตัว การเลือกที่พักจะแตกต่างไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าเช่าต่อเดือน การเดินทางไปมหาวิทยาลัย ความสะดวกสบาย

ระหว่างภาคเรียนและช่วงปิดเทอม นักเรียนส่วนใหญ่จะทำงานพิเศษควบคู่ไปด้วย เพื่อหารายได้เสริมมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว นอกจากนี้ มหาลัยมักสนับสนุนให้นักศึกษาไปหาที่ฝึกงาน เพื่อค้นหาความชอบ ความสามารถของตน และยังเป็นการเปิดประตูสู่การสมัครงานในบริษัทนั้นๆ เมื่อเรียนจบได้อีกด้วย

วีดีโอทดลองใช้ชีวิตแบบเยอรมัน โดยนักข่าวชาวอังกฤษ: "Make Me A German by BBC Two"

ใครอยากเริ่มเรียนเยอรมันด้วยตนเอง สามารถเรียนจาก บทเรียนด้วยตนเอง ของ Mausmoin.com ได้เลย 

บริการแปลเอกสาร ไทย-เยอรมัน

แปลและรับรองคำแปล เยอรมัน-ไทย โดยนักแปลที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมัน สามารถใช้ฉบับแปลจากเรา ทำธุรกรรมสำคัญ และติดต่อราชการ ได้ทั้งในไทยและเยอรมัน

คุณสามารถทราบค่าบริการแปลได้รวดเร็ว เพียงส่งตัวอย่างเอกสารมาทาง Line, Skype หรืออีเมล์ -ยินดีรับงานด่วน-

Skype/ Line ID: Mausmoin
อีเมล์: info@mausmoin.com
โทร (ในเยอรมนี): +49 (0) 176 31176234

เรียนต่อในเยอรมนี | Studium in Deutschland

สารบัญstudy

ทำไมเยอรมนีจึงน่ามาเรียน

วิธีการหาที่เรียน สมัครเรียนต่อในเยอรมนี

ติดต่อแปลเอกสาร

ทำไมเยอรมนีจึงน่ามาเรียน

หากใครกำลังคิดที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ และชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ประเทศเยอรมนีน่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเป็นอันดับต้นๆ สำหรับพิจารณา หลายคนมักจะถามคำถาม 6 ข้อด้านล่างกับเม้าส์มอยน์เม้าส์มอยน์จึงขอรวบรวมคำตอบ และเหตุผลด้านต่างๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ คนที่กำลังพิจารณาหาที่เรียนต่อต่างประทศ มาดูกันว่า "ทำไมเยอรมนีถึงน่ามาเรียน"

1. ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย

"ค่าเรียนแพงไหมนะ?"

ยังคงเป็นข่าวดีสำหรับนักศึกษาในหลายๆ รัฐ ที่มหาวิทยาลัยของรัฐหลายแห่งยังคงไม่เก็บค่าเทอม (500 ยูโรต่อเทอม) แม้จะเรียนปริญญาโทก็ตาม ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงินของนักศึกษาได้มาก เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศอื่นๆ ที่เก็บค่าเทอมค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ แม้เราจะเป็นนักเรียนต่างชาติ ที่มาเรียนในเยอรมนีช่วงสั้นๆ แต่เราจะได้รับสวัสดิการนักเรียน และเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมือนกับนักเรียนที่เป็นคนเยอรมนีเลย

โดยแต่ละภาคการศึกษา นักศึกษาจะจ่ายค่าบริการนักศึกษา และตั๋วเดินทางเพิ่มประมาณ 100-250 ยูโร โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของนักศึกษามักจะถูกกว่าบุคคลทั่วไป เช่น ค่าประกันสุขภาพ ค่าเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ รวมทั้งภาษีจากการทำงานมีรายได้ และค่าใช้จ่ายต่างๆ นับว่าคุ้มค่ากับช่วงเวลาการเป็นนักศึกษาในเยอรมนี

ส่วนค่าที่อยู่อาศัย ก็ราคาต่างกันไปขึ้นอยู่กับเมือง ทำเล และขนาดด้วย แต่โดยปกติ หอนักเรียนจะมีราคาถูกกว่าห้องเช่าอื่น ๆ แต่มักมีจำนวนจำกัด ต้องเข้าคิวนานกว่าจะได้ห้อง

2. ภาษาที่สาม

"ต้องเรียนเป็นภาษาเยอรมนีรึเปล่านะ?"

คงเป็นคำถามที่ดึงรั้งหลายๆ คนไว้ไม่กล้าหาที่เรียน ที่ต้องใช้ภาษาที่สามอย่างภาษาเยอรมนี อาจรู้สึกไม่มั่นใจ กลัวเรียนไม่รู้เรื่อง หากใครยังไม่พร้อมจะเรียนเป็นภาษาเยอรมนี ก็สามารถเลือกเรียนโปรแกรมที่ใช้ภาษาอังกฤษเรียนได้

อันที่จริง หากมองอีกด้านหนึ่ง การรู้ภาษาเยอรมันจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายประเทศในยุโรปเลย เช่น ในออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม นอกจากนี้ การรู้ภาษาที่สามและมีโอกาสได้ฝึกฝนในประเทศนั้นๆ จะเป็นการเปิดโอกาสทองในอนาคตของเราได้กว้างขึ้นด้วย และเวลาที่เราใช้ภาษาเยอรมันสื่อสารกับคนเยอรมัน หลายคนจะแอบดีใจและอยากคุยกับเรามากขึ้นกว่าเดิม

หากต้องมาเรียนภาษาเยอรมันเพิ่ม ช่วงเวลาที่เราใช้ในการเรียนภาษาเยอรมนี นอกจากจะได้ทักษะภาษาแล้ว ยังได้รู้จักเพื่อนต่างชาติ ได้เปิดมุมมองต่อวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันของเพื่อนในห้อง รวมถึงอิทธิพลของภาษานั้นๆ ที่มีผลต่อทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาอีกด้วย เรียกได้ว่า ได้ทั้งปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ทั้งภาษา วัฒนธรรม เพื่อนใหม่ และการใช้ชีวิตเลย

ใครอยากเริ่มเรียนเยอรมันด้วยตนเอง สามารถเรียนจาก บทเรียนเยอรมันออนไลน์ ฟรี! ของ Mausmoin.com หรือ หนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ และคอร์สเรียนเยอรมันของเม้าส์มอยน์ได้เลย

3. คุณภาพชีวิต

"เมืองจะน่าเบื่อไหมนะ มาอยู่คนเดียวอันตรายไหม?"

เมืองที่มีมหาวิทยาลัย มักมีสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับนักเรียนเยอรมัน และนักเรียนต่างชาติ มีร้านค้า ร้านอาหาร ถนนคนเดิน ที่พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือใหญ่ นักศึกษาจะมีพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ ทำงานกลุ่มกับเพื่อน มีห้องสมุดไว้บริการ มีสภาพชีวิตที่ดี

วันธรรมดาไปเข้าเรียน ตั้งใจศึกษาหาความรู้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์สามารถใช้เวลาพักผ่อนได้หลากหลาย ตามความชอบของแต่ละคน เช่น นัดเพื่อนนานาชาติทำอาหารร่วมกัน นั่งรถไฟ หรือเช่ารถขับเที่ยวต่างเมือง ไปปิคนิค เล่นกีฬา เยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นต้น ได้ทั้งความรู้เข้มข้น และความสุขในการใช้ชีวิตการเรียนต่างแดน

ร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์หลายที่ มักมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียน นักศึกษาด้วย
โดยรวมมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง แต่ตัวเราเองก็ต้องไม่ประมาทด้วยเช่นกัน

4. คุณภาพการศึกษา

"เรียนฟรี แล้วคุณภาพจะดีไหมนะ แต่ละที่ดีพอกันไหม?"

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในเยอรมนี มักมีมาตราฐานการศึกษาที่ดี ไม่ได้หนีห่างกันมากนัก การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นปัจจัยในการเลือกคณะเรียน แต่เราสามารถใช้ข้อมูลของคณะ วิชาที่ต้องเรียน ข้อกำหนดต่างๆ ที่มีในเว็บไซต์ มาเป็นตัวพิจารณาในการเลือกที่เรียนที่เราสนใจแทน

ลักษณะการเรียนจะค่อนข้างเน้นไปที่ การให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้นักเรียนยกมือถาม หรือแสดงความคิดเห็น เน้นการเรียนรู้ที่มาจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของนักเรียน การทำงานกลุ่ม การทำรายงานเพื่อเพิ่มความชำนาญในเรื่องนั้นๆ และเข้มงวดกับการลงโทษ เมื่อมีการลอกงานของผู้อื่นมา และไม่มีแหล่งอ้างอิง ทำให้เราได้ฝึกฝน เรียนรู้ ค้นคว้า อย่างถูกต้องและเต็มที่

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียน ไม่จำกัดอายุ (แต่ถ้าจะสมัครทุน DAAD บางทุน จะมีจำกัดอายุ)

5. ความสะดวกและความปลอดภัย

"ค่าเดินทางแพงไหม จะเดินทางไปเรียนลำบากรึเปล่านะ?"

การเดินทางไปเรียนโดยระบบขนส่งมวลชน สามารถทำได้โดยง่ายและปลอดภัย รถเมล์ รถราง รถใต้ดินและรถไฟโดยส่วนใหญ่ มาตรงเวลา (นอกจากจะมีเหตุสุดวิสัย หรือประท้วง) และยังเข้าถึงพื้นที่อยู่อาศัย และมหาวิทยาลัยค่อนข้างครอบคลุม นักศึกษาสามารถใช้สิทธิ์ซื้อบัตรเดินทางรายภาคการศึกษา เดินทางสะดวก รวดเร็ว รถไม่ค่อยติด (เมื่อเทียบกับกรุงเทพ)
 
เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถือได้ว่าค่อนข้างปลอดภัย คนขับรถส่วนใหญ่เคารพกฏจราจร มีทางเดินเท้า ทางจักรยานชัดเจน แต่ก็ขึ้นอยู่กับเมืองที่อยู่ และการมีสติระมัดระวังของเรา ไม่เดินที่เปลี่ยวกลางดึก หรือเผลอลืมของไว้บนรถไฟ เม้าส์มอยน์ฝากให้ทุกคนป้องกันไว้ก่อนดีกว่า

6. การท่องเที่ยวเปิดมุมมองใหม่ๆ

"มาเรียนเมืองนอกทั้งที อยากเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ด้วย ยากไหมนะ?"

หนึ่งในปัจจัย (ทางอ้อม) ที่หลายๆคน ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศก็คือ การได้เปิดโลกทัศน์ ท่องเที่ยวต่างแดน การท่องเที่ยวเมืองต่างๆในเยอรมนีทำได้สะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถเมล์ รถบัสทางไกล รถไฟ เครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ ด้วยทำเลของประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่กลางยุโรป ทำให้การจัดทริปเยี่ยมเยือนประเทศเพื่อนบ้าน อย่างฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย โปแลนด์ หรือสาธารณรัฐเช็ก ก็ทำได้สะดวกและไม่ต้องใช้เวลาเดินทางนาน รวมทั้งค่าเดินทาง และค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียนนักศึกษาอีกด้วย

วิธีการหาที่เรียน สมัครเรียนต่อในเยอรมนี

ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่า "ใช่" อยากจะมาเรียนเยอรมนี ก็เริ่มหาโปรแกรมที่อยากเรียนและวางแผนเตรียมตัวสมัครกันได้เลย ดังนี้

1. ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการมาเรียนต่อเยอรมนี

รวบรวมโปรแกรมเรียน การเตรียมตัว รายละเอียดต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์หลักของ DAAD: https://www.daad.de/en/

คู่มือศึกษาต่อในเยอรมนีภาษาไทย จัดทำโดย DAAD (PDF)

2. หาสาขาและโปรแกรมเรียน

ง่ายๆ โดยอาจเริ่มสกรีนเลือกจากสาขาที่สนใจ ระยะเวลาการเรียน หรือภาษาที่ใช้เรียนที่: https://www.daad.de/deutschland/studienangebote/studiengang/en/

หรือจะเจาะจงหาแต่ International Program ก็คลิกได้ที่นี่: https://www.daad.de/deutschland/studienangebote/international-programs/en/

3. ทุนการศึกษาก็มี

อันที่จริง มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในเยอรมนีมักจะไม่คิดค่าเทอม แต่หากเรายังต้องการหาทุนการศึกษาเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็สามารถดูได้ที่นี่: https://www.daad.de/deutschland/stipendium/en/

4. สมัครเรียน

เมื่อเราได้โปรแกรมที่อยากเรียนแล้ว ลองเลือกมา 3-5 ที่ (โปรแกรมที่อยากเรียนที่สุด และที่สำรองเผื่อไว้) เพื่อเตรียมเอกสารส่งไปสมัครเข้าเรียน สิ่งที่ต้องระวังคือ

  • ควรวางแผนการสมัครเข้าเรียนให้ทันกำหนดปิดรับสมัคร แต่ละมหาวิทยาลัยอาจมีกำหนดปิดรับสมัครไม่พร้อมกัน จดไว้ดีๆ
  • ควรเผื่อเวลาจัดเตรียมเอกสารการสมัครล่วงหน้า 3-6 เดือนเป็นอย่างน้อยก่อน deadline เพราะเอกสารที่ต้องส่งไปสมัครค่อนข้างเยอะ เราอาจจะต้องเตรียมสอบวัดผลภาษาเยอรมัน หรือภาษาอังกฤษ หรือให้หัวหน้างาน หรืออาจารย์เขียนจดหมายแนะนำให้เรา ถ้าเราส่งเอกสารประกอบการสมัครไม่ครบ โอกาสที่มหาวิทยาลัยจะพิจารณารับเราก็อาจจะลดลงได้
  • อ่านเงื่อนไข คุณสมบัติ ผู้สมัครเข้าเรียนให้ละเอียด และพิจารณาว่า ประวัติการศึกษา หรืออายุการทำงานในสายงานของเรา เพียงพอตามที่มหาวิทยาลัยต้องการหรือไม่ และทำอย่างไรจึงจะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่มหาวิทยาลัยต้องการ หรือควรจะเลือกสมัครโปรแกรมที่เราสนใจ และคุณสมบัติเราตรงกับที่มหาวิทยาลัยต้องการจริงๆ เราก็จะมีสิทธิได้รับคัดเลือกเข้าเรียนได้มากขึ้น
  • การสมัครเรียนต่อปริญญาโทที่เยอรมนี มหาวิทยาลัยมักจะยอมให้เราเรียนต่อโท ถ้าเราจบมาตรงสาย หรือมีประสบการณ์ทำงานเพียงพอ โดยยื่นเอกสาร Transcript และใบจบเป็นหลักฐานให้เค้าดู (ถ้าเป็นภาษาไทย ก็สามารถติดต่อ mausmoin.com แปลเป็นเยอรมันได้)
  • บางมหาลัยก็เปิดโอกาสให้คนจบไม่ตรงสายสมัครเรียน เช่น MBA  บางมหาลัยก็เปิดโอกาสให้คนจบไม่ตรงสายสมัครเรียน เช่น ปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจ MBA (โปรแกรมที่ครูศิรินเคยเรียน ตอนปริญญาตรีครูจบอักษรศาสตร์ เอกภาษาเยอรมัน) โดยมหาวิทยาลัยจะเขียนแจ้งไว้ชัดเจน แต่จะขอประสบการณ์ทำงานกี่ปีขึ้นไปประกอบด้วย ถ้ามีคุณสมบัติครบตามที่โปรแกรมระบุ ก็ยื่นเรื่องสมัครได้ แต่เขาจะรับหรือไม่ ก็จะพิจารณาจากเอกสาร ผลการเรียน และจดหมายแสดงความตั้งใจว่าอยากเรียนจริงๆ ด้วย ตอนสมัครเรียนพยายามเตรียมเอกสารให้ครบ และสอบวัดระดับภาษาต่างๆ ตามที่ระบุขอไว้ให้ผ่าน
  • ควรใส่ใจและให้น้ำหนักกับการเขียนจดหมายแนะนำตัว หรือจดหมายแสดงความอยากไปเรียน ว่าทำไมมหาวิทยาลัยควรจะเลือกเราเข้าศึกษา เรามีคุณสมบัติครบตามที่เขาต้องการมากเพียงใด มีประสบการณ์ หรือเรียนมาด้านไหน ตรงสายกับโปรแกรมที่เราสมัครจริงๆ มากแค่ไหน ทำไมเราจึงอยากเรียนที่นี่ และจบมาแล้ว เราจะทำประโยชน์ให้มหาวิทยาลัยหรือประเทศเยอรมนีและไทยได้อย่างไร เป็นต้น
  • เตรียมเรียนภาษาเยอรมันตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่เริ่มตั้งเป้าหมายและเตรียมเอกสาร เพราะการเรียนภาษาต้องใช้เวลาฝึกฝน และสะสมความรู้ จะกระชั้นชิดเกินไป ถ้าจะมาเริ่มเรียนเยอรมันหลังได้คำตอบจากมหาวิทยาลัย ใครอยากเริ่มเรียนเยอรมันด้วยตนเอง สามารถเรียนจาก บทเรียนเยอรมันออนไลน์ ฟรี! ของ Mausmoin.com หรือ หนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ และคอร์สเรียนเยอรมันของเม้าส์มอยน์ได้เลย
การตั้งเป้าหมาย ค้นคว้าหาข้อมูล และตั้งใจไปให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ เป็นคุณสมบัติสำคัญ ที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ เม้าส์มอยน์และครูศิรินขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ!

บริการแปลเอกสาร ไทย-เยอรมัน

แปลและรับรองคำแปล เยอรมัน-ไทย โดยนักแปลที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมัน สามารถใช้ฉบับแปลจากเรา สมัครเรียน สมัครฝึกงาน ยื่นเอกสารที่มหาวิทยาลัย และติดต่อราชการ ได้ทั้งในไทยและเยอรมัน

คุณสามารถทราบค่าบริการแปลได้รวดเร็ว เพียงส่งตัวอย่างเอกสารมาทาง Line, Skype หรืออีเมล์ -ยินดีรับงานด่วน-

Skype/ Line ID: Mausmoin
อีเมล์: info@mausmoin.com
โทร (ในเยอรมนี): +49 (0) 176 31176234

คอร์สวิดีโอติวสอบเยอรมันระดับA1

เรียนได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เนต ผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ
คอร์สติวสอบรวม 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน

ดูโปรโมชั่นราคาพิเศษและสมัครทดลองเรียนที่นี่ หรือกดปุ่ม buy ซื้อคอร์ส และเริ่มเรียนได้เลย

สมัครเรียน

 

Erfolg [ความสำเร็จ]

Die Farben [สี]