เรียนต่อในเยอรมนี | Studium in Deutschland

สารบัญstudy

ทำไมเยอรมนีจึงน่ามาเรียน

วิธีการหาที่เรียน สมัครเรียนต่อในเยอรมนี

ติดต่อแปลเอกสาร

ทำไมเยอรมนีจึงน่ามาเรียน

หากใครกำลังคิดที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ และชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ประเทศเยอรมนีน่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเป็นอันดับต้นๆ สำหรับพิจารณา หลายคนมักจะถามคำถาม 6 ข้อด้านล่างกับเม้าส์มอยน์เม้าส์มอยน์จึงขอรวบรวมคำตอบ และเหตุผลด้านต่างๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ คนที่กำลังพิจารณาหาที่เรียนต่อต่างประทศ มาดูกันว่า "ทำไมเยอรมนีถึงน่ามาเรียน"

1. ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย

"ค่าเรียนแพงไหมนะ?"

ยังคงเป็นข่าวดีสำหรับนักศึกษาในหลายๆ รัฐ ที่มหาวิทยาลัยของรัฐหลายแห่งยังคงไม่เก็บค่าเทอม (500 ยูโรต่อเทอม) แม้จะเรียนปริญญาโทก็ตาม ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงินของนักศึกษาได้มาก เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศอื่นๆ ที่เก็บค่าเทอมค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ แม้เราจะเป็นนักเรียนต่างชาติ ที่มาเรียนในเยอรมนีช่วงสั้นๆ แต่เราจะได้รับสวัสดิการนักเรียน และเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมือนกับนักเรียนที่เป็นคนเยอรมนีเลย

โดยแต่ละภาคการศึกษา นักศึกษาจะจ่ายค่าบริการนักศึกษา และตั๋วเดินทางเพิ่มประมาณ 100-250 ยูโร โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของนักศึกษามักจะถูกกว่าบุคคลทั่วไป เช่น ค่าประกันสุขภาพ ค่าเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ รวมทั้งภาษีจากการทำงานมีรายได้ และค่าใช้จ่ายต่างๆ นับว่าคุ้มค่ากับช่วงเวลาการเป็นนักศึกษาในเยอรมนี

ส่วนค่าที่อยู่อาศัย ก็ราคาต่างกันไปขึ้นอยู่กับเมือง ทำเล และขนาดด้วย แต่โดยปกติ หอนักเรียนจะมีราคาถูกกว่าห้องเช่าอื่น ๆ แต่มักมีจำนวนจำกัด ต้องเข้าคิวนานกว่าจะได้ห้อง

2. ภาษาที่สาม

"ต้องเรียนเป็นภาษาเยอรมนีรึเปล่านะ?"

คงเป็นคำถามที่ดึงรั้งหลายๆ คนไว้ไม่กล้าหาที่เรียน ที่ต้องใช้ภาษาที่สามอย่างภาษาเยอรมนี อาจรู้สึกไม่มั่นใจ กลัวเรียนไม่รู้เรื่อง หากใครยังไม่พร้อมจะเรียนเป็นภาษาเยอรมนี ก็สามารถเลือกเรียนโปรแกรมที่ใช้ภาษาอังกฤษเรียนได้

อันที่จริง หากมองอีกด้านหนึ่ง การรู้ภาษาเยอรมันจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายประเทศในยุโรปเลย เช่น ในออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม นอกจากนี้ การรู้ภาษาที่สามและมีโอกาสได้ฝึกฝนในประเทศนั้นๆ จะเป็นการเปิดโอกาสทองในอนาคตของเราได้กว้างขึ้นด้วย และเวลาที่เราใช้ภาษาเยอรมันสื่อสารกับคนเยอรมัน หลายคนจะแอบดีใจและอยากคุยกับเรามากขึ้นกว่าเดิม

หากต้องมาเรียนภาษาเยอรมันเพิ่ม ช่วงเวลาที่เราใช้ในการเรียนภาษาเยอรมนี นอกจากจะได้ทักษะภาษาแล้ว ยังได้รู้จักเพื่อนต่างชาติ ได้เปิดมุมมองต่อวัฒนธรรม ที่แตกต่างกันของเพื่อนในห้อง รวมถึงอิทธิพลของภาษานั้นๆ ที่มีผลต่อทัศนคติ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาอีกด้วย เรียกได้ว่า ได้ทั้งปริญญาจากมหาวิทยาลัย และปริญญาทางการเรียนรู้โลกใหม่ ทั้งภาษา วัฒนธรรม เพื่อนใหม่ และการใช้ชีวิตเลย

ใครอยากเริ่มเรียนเยอรมันด้วยตนเอง สามารถเรียนจาก บทเรียนเยอรมันออนไลน์ ฟรี! ของ Mausmoin.com หรือ หนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ และคอร์สเรียนเยอรมันของเม้าส์มอยน์ได้เลย

3. คุณภาพชีวิต

"เมืองจะน่าเบื่อไหมนะ มาอยู่คนเดียวอันตรายไหม?"

เมืองที่มีมหาวิทยาลัย มักมีสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับนักเรียนเยอรมัน และนักเรียนต่างชาติ มีร้านค้า ร้านอาหาร ถนนคนเดิน ที่พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือใหญ่ นักศึกษาจะมีพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ ทำงานกลุ่มกับเพื่อน มีห้องสมุดไว้บริการ มีสภาพชีวิตที่ดี

วันธรรมดาไปเข้าเรียน ตั้งใจศึกษาหาความรู้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์สามารถใช้เวลาพักผ่อนได้หลากหลาย ตามความชอบของแต่ละคน เช่น นัดเพื่อนนานาชาติทำอาหารร่วมกัน นั่งรถไฟ หรือเช่ารถขับเที่ยวต่างเมือง ไปปิคนิค เล่นกีฬา เยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เป็นต้น ได้ทั้งความรู้เข้มข้น และความสุขในการใช้ชีวิตการเรียนต่างแดน

ร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์หลายที่ มักมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียน นักศึกษาด้วย
โดยรวมมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง แต่ตัวเราเองก็ต้องไม่ประมาทด้วยเช่นกัน

4. คุณภาพการศึกษา

"เรียนฟรี แล้วคุณภาพจะดีไหมนะ แต่ละที่ดีพอกันไหม?"

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในเยอรมนี มักมีมาตราฐานการศึกษาที่ดี ไม่ได้หนีห่างกันมากนัก การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นปัจจัยในการเลือกคณะเรียน แต่เราสามารถใช้ข้อมูลของคณะ วิชาที่ต้องเรียน ข้อกำหนดต่างๆ ที่มีในเว็บไซต์ มาเป็นตัวพิจารณาในการเลือกที่เรียนที่เราสนใจแทน

ลักษณะการเรียนจะค่อนข้างเน้นไปที่ การให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสให้นักเรียนยกมือถาม หรือแสดงความคิดเห็น เน้นการเรียนรู้ที่มาจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองของนักเรียน การทำงานกลุ่ม การทำรายงานเพื่อเพิ่มความชำนาญในเรื่องนั้นๆ และเข้มงวดกับการลงโทษ เมื่อมีการลอกงานของผู้อื่นมา และไม่มีแหล่งอ้างอิง ทำให้เราได้ฝึกฝน เรียนรู้ ค้นคว้า อย่างถูกต้องและเต็มที่

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียน ไม่จำกัดอายุ (แต่ถ้าจะสมัครทุน DAAD บางทุน จะมีจำกัดอายุ)

5. ความสะดวกและความปลอดภัย

"ค่าเดินทางแพงไหม จะเดินทางไปเรียนลำบากรึเปล่านะ?"

การเดินทางไปเรียนโดยระบบขนส่งมวลชน สามารถทำได้โดยง่ายและปลอดภัย รถเมล์ รถราง รถใต้ดินและรถไฟโดยส่วนใหญ่ มาตรงเวลา (นอกจากจะมีเหตุสุดวิสัย หรือประท้วง) และยังเข้าถึงพื้นที่อยู่อาศัย และมหาวิทยาลัยค่อนข้างครอบคลุม นักศึกษาสามารถใช้สิทธิ์ซื้อบัตรเดินทางรายภาคการศึกษา เดินทางสะดวก รวดเร็ว รถไม่ค่อยติด (เมื่อเทียบกับกรุงเทพ)
 
เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถือได้ว่าค่อนข้างปลอดภัย คนขับรถส่วนใหญ่เคารพกฏจราจร มีทางเดินเท้า ทางจักรยานชัดเจน แต่ก็ขึ้นอยู่กับเมืองที่อยู่ และการมีสติระมัดระวังของเรา ไม่เดินที่เปลี่ยวกลางดึก หรือเผลอลืมของไว้บนรถไฟ เม้าส์มอยน์ฝากให้ทุกคนป้องกันไว้ก่อนดีกว่า

6. การท่องเที่ยวเปิดมุมมองใหม่ๆ

"มาเรียนเมืองนอกทั้งที อยากเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ด้วย ยากไหมนะ?"

หนึ่งในปัจจัย (ทางอ้อม) ที่หลายๆคน ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศก็คือ การได้เปิดโลกทัศน์ ท่องเที่ยวต่างแดน การท่องเที่ยวเมืองต่างๆในเยอรมนีทำได้สะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถเมล์ รถบัสทางไกล รถไฟ เครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ ด้วยทำเลของประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่กลางยุโรป ทำให้การจัดทริปเยี่ยมเยือนประเทศเพื่อนบ้าน อย่างฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย โปแลนด์ หรือสาธารณรัฐเช็ก ก็ทำได้สะดวกและไม่ต้องใช้เวลาเดินทางนาน รวมทั้งค่าเดินทาง และค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียนนักศึกษาอีกด้วย

วิธีการหาที่เรียน สมัครเรียนต่อในเยอรมนี

ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่า "ใช่" อยากจะมาเรียนเยอรมนี ก็เริ่มหาโปรแกรมที่อยากเรียนและวางแผนเตรียมตัวสมัครกันได้เลย ดังนี้

1. ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการมาเรียนต่อเยอรมนี

รวบรวมโปรแกรมเรียน การเตรียมตัว รายละเอียดต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์หลักของ DAAD: https://www.daad.de/en/

คู่มือศึกษาต่อในเยอรมนีภาษาไทย จัดทำโดย DAAD (PDF)

2. หาสาขาและโปรแกรมเรียน

ง่ายๆ โดยอาจเริ่มสกรีนเลือกจากสาขาที่สนใจ ระยะเวลาการเรียน หรือภาษาที่ใช้เรียนที่: https://www.daad.de/deutschland/studienangebote/studiengang/en/

หรือจะเจาะจงหาแต่ International Program ก็คลิกได้ที่นี่: https://www.daad.de/deutschland/studienangebote/international-programs/en/

3. ทุนการศึกษาก็มี

อันที่จริง มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในเยอรมนีมักจะไม่คิดค่าเทอม แต่หากเรายังต้องการหาทุนการศึกษาเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็สามารถดูได้ที่นี่: https://www.daad.de/deutschland/stipendium/en/

4. สมัครเรียน

เมื่อเราได้โปรแกรมที่อยากเรียนแล้ว ลองเลือกมา 3-5 ที่ (โปรแกรมที่อยากเรียนที่สุด และที่สำรองเผื่อไว้) เพื่อเตรียมเอกสารส่งไปสมัครเข้าเรียน สิ่งที่ต้องระวังคือ

  • ควรวางแผนการสมัครเข้าเรียนให้ทันกำหนดปิดรับสมัคร แต่ละมหาวิทยาลัยอาจมีกำหนดปิดรับสมัครไม่พร้อมกัน จดไว้ดีๆ
  • ควรเผื่อเวลาจัดเตรียมเอกสารการสมัครล่วงหน้า 3-6 เดือนเป็นอย่างน้อยก่อน deadline เพราะเอกสารที่ต้องส่งไปสมัครค่อนข้างเยอะ เราอาจจะต้องเตรียมสอบวัดผลภาษาเยอรมัน หรือภาษาอังกฤษ หรือให้หัวหน้างาน หรืออาจารย์เขียนจดหมายแนะนำให้เรา ถ้าเราส่งเอกสารประกอบการสมัครไม่ครบ โอกาสที่มหาวิทยาลัยจะพิจารณารับเราก็อาจจะลดลงได้
  • อ่านเงื่อนไข คุณสมบัติ ผู้สมัครเข้าเรียนให้ละเอียด และพิจารณาว่า ประวัติการศึกษา หรืออายุการทำงานในสายงานของเรา เพียงพอตามที่มหาวิทยาลัยต้องการหรือไม่ และทำอย่างไรจึงจะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่มหาวิทยาลัยต้องการ หรือควรจะเลือกสมัครโปรแกรมที่เราสนใจ และคุณสมบัติเราตรงกับที่มหาวิทยาลัยต้องการจริงๆ เราก็จะมีสิทธิได้รับคัดเลือกเข้าเรียนได้มากขึ้น
  • การสมัครเรียนต่อปริญญาโทที่เยอรมนี มหาวิทยาลัยมักจะยอมให้เราเรียนต่อโท ถ้าเราจบมาตรงสาย หรือมีประสบการณ์ทำงานเพียงพอ โดยยื่นเอกสาร Transcript และใบจบเป็นหลักฐานให้เค้าดู (ถ้าเป็นภาษาไทย ก็สามารถติดต่อ mausmoin.com แปลเป็นเยอรมันได้)
  • บางมหาลัยก็เปิดโอกาสให้คนจบไม่ตรงสายสมัครเรียน เช่น MBA  บางมหาลัยก็เปิดโอกาสให้คนจบไม่ตรงสายสมัครเรียน เช่น ปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจ MBA (โปรแกรมที่ครูศิรินเคยเรียน ตอนปริญญาตรีครูจบอักษรศาสตร์ เอกภาษาเยอรมัน) โดยมหาวิทยาลัยจะเขียนแจ้งไว้ชัดเจน แต่จะขอประสบการณ์ทำงานกี่ปีขึ้นไปประกอบด้วย ถ้ามีคุณสมบัติครบตามที่โปรแกรมระบุ ก็ยื่นเรื่องสมัครได้ แต่เขาจะรับหรือไม่ ก็จะพิจารณาจากเอกสาร ผลการเรียน และจดหมายแสดงความตั้งใจว่าอยากเรียนจริงๆ ด้วย ตอนสมัครเรียนพยายามเตรียมเอกสารให้ครบ และสอบวัดระดับภาษาต่างๆ ตามที่ระบุขอไว้ให้ผ่าน
  • ควรใส่ใจและให้น้ำหนักกับการเขียนจดหมายแนะนำตัว หรือจดหมายแสดงความอยากไปเรียน ว่าทำไมมหาวิทยาลัยควรจะเลือกเราเข้าศึกษา เรามีคุณสมบัติครบตามที่เขาต้องการมากเพียงใด มีประสบการณ์ หรือเรียนมาด้านไหน ตรงสายกับโปรแกรมที่เราสมัครจริงๆ มากแค่ไหน ทำไมเราจึงอยากเรียนที่นี่ และจบมาแล้ว เราจะทำประโยชน์ให้มหาวิทยาลัยหรือประเทศเยอรมนีและไทยได้อย่างไร เป็นต้น
  • เตรียมเรียนภาษาเยอรมันตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่เริ่มตั้งเป้าหมายและเตรียมเอกสาร เพราะการเรียนภาษาต้องใช้เวลาฝึกฝน และสะสมความรู้ จะกระชั้นชิดเกินไป ถ้าจะมาเริ่มเรียนเยอรมันหลังได้คำตอบจากมหาวิทยาลัย ใครอยากเริ่มเรียนเยอรมันด้วยตนเอง สามารถเรียนจาก บทเรียนเยอรมันออนไลน์ ฟรี! ของ Mausmoin.com หรือ หนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์ และคอร์สเรียนเยอรมันของเม้าส์มอยน์ได้เลย
การตั้งเป้าหมาย ค้นคว้าหาข้อมูล และตั้งใจไปให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ เป็นคุณสมบัติสำคัญ ที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ เม้าส์มอยน์และครูศิรินขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ!

บริการแปลเอกสาร ไทย-เยอรมัน

แปลและรับรองคำแปล เยอรมัน-ไทย โดยนักแปลที่ได้รับอนุญาตจากศาลเยอรมัน สามารถใช้ฉบับแปลจากเรา สมัครเรียน สมัครฝึกงาน ยื่นเอกสารที่มหาวิทยาลัย และติดต่อราชการ ได้ทั้งในไทยและเยอรมัน

คุณสามารถทราบค่าบริการแปลได้รวดเร็ว เพียงส่งตัวอย่างเอกสารมาทาง Line, Skype หรืออีเมล์ -ยินดีรับงานด่วน-

Skype/ Line ID: Mausmoin
อีเมล์: info@mausmoin.com
โทร (ในเยอรมนี): +49 (0) 176 31176234

คอร์สวิดีโอติวสอบเยอรมันระดับA1

เรียนได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เนต ผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ
คอร์สติวสอบรวม 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน

ดูโปรโมชั่นราคาพิเศษและสมัครทดลองเรียนที่นี่ หรือกดปุ่ม buy ซื้อคอร์ส และเริ่มเรียนได้เลย

สมัครเรียน

 

Erfolg [ความสำเร็จ]

Die Farben [สี]

มารยาทและข้อระวังในการขึ้นรถไฟในเยอรมัน

post zug

ช่วงนี้มารยาทบนรถไฟในต่างประเทศกำลังเป็นประเด็นที่พูดคุยกัน เรามาดูมารยาทและข้อระวังในการขึ้นรถไฟในเยอรมันกันบ้างครับ

1. "ชั้นหนึ่ง" และ "ชั้นสอง"

รถไฟในเยอรมันส่วนใหญ่จะแยกส่วน "ชั้นหนึ่ง" และ "ชั้นสอง" รวมทั้งระวังที่นั่งจอง หากเราซื้อตั๋วชั้นธรรมดาก็ต้องระวัง อย่าไปนั่งหรือยืนในตู้ชั้นหนึ่ง ไม่งั้นจะโดนปรับได้นะครับ

2. แสตมป์ตั๋วก่อนขึ้นรถ

ตั๋วรถไฟมีด้วยกันหลายประเภท บางประเภทจะให้เขียนชื่อนามสกุลตัวบรรจงบนตั๋ว แต่หลายครั้งที่เราซื้อตั๋วจากเครื่องขายตั๋ว ควรสังเกตให้ดีว่าเราต้องแสตมป์ตั๋วที่เครื่องตอกบัตรเล็กๆ ที่ทางเข้าชานชลาก่อนขึ้นรถไฟหรือไม่ เพราะบนรถไฟจะไม่มีที่แสตมป์ตั๋ว ไม่เช่นนั้นอาจโดนปรับบนรถไฟได้ครับ

3. ให้คนข้างในออกก่อน

อย่ายืนออหน้าประตู ควรยืนรอเตรียมขึ้นรถที่ด้านข้างประตูทางเข้า และให้ทางคนข้างในออกมาก่อน

4. แยกขยะ และทิ้งขยะให้เป็นที่

ถ้ามีถังขยะแยกประเภทไว้ เช่น ตามสถานีรถไฟ หรือบนรถไฟบางขบวน เราก็ควรแยกขยะทิ้งให้ถูกช่องนะครับ

5. ตรงเวลาและเผื่อเวลาล่วงหน้

โดยปกติรถไฟจะมาและออกตรงเวลา หากเราจองไว้ ก็ควรไปรอก่อนเวลา 5-10 นาทีล่วงหน้า แม้คนขับจะเห็นเราวิ่งมากดปุ่มเปิดประตูรถวินาทีสุดท้าย เขาก็อาจจะไม่กดเปิดประตูให้
หากมีประกาศว่ารถไฟจะมาช้ากว่ากำหนดประมาณ 10 นาที ก็ควรเตรียมตัวรอที่ชานชลา หรือคอยฟังประกาศไว้ เพราะในหลายๆ ครั้ง รถไฟอาจมาเร็วกว่าที่ประกาศไว้ หรือมีประกาศเปลี่ยนชานชลาแบบฉับพลัน หากเรายังฟังประกาศไม่คล่องอาจลองสังเกตคนที่รอรถไฟรอบเดียวกัน ว่าพากันเดินไปที่ชานชลาอื่นหรือไม่ ไม่งั้นเราอาจตกรถไฟได้ เสียทั้งเงิน ทั้งเวลามากขึ้นด้วยนะครับ

Frohe Ostern!

Ostern

ใครได้หยุดช่วงอีสเตอร์กันบ้าง ขอมือหน่อย! มีความสุขในช่วงวันหยุดยาวกันนะครับ 🙂  

Wir wünschen euch frohe Ostern und schöne Feiertage!

มีคำศัพท์มาฝากด้วย...

froh <adj> /โฟร/ มีความสุข สดใส
das Ostern,- /โอส-เทิร์น/ เทศกาลอีสเตอร์
เวลาเราอวยพรว่า frohe Ostern! มักจะใช้ในรูปพหูพจน์ครับ

schön <adj> /เชิน/ สวย ดี
der Feiertag, e /ไฟ-เออร์-ถาค/ วันหยุดประจำปี
คำว่า schön มักนำมาใช้อวยพรกัน เช่น schöne Feiertage! จะหมายถึง "ขอให้มีความสุขในวันหยุด" ครับ

3 ข่าวเด่น สำหรับเพื่อนๆ ที่เยอรมัน เม.ย. 2015

MM 1

3 ข่าวเด่น สำหรับเพื่อนๆ ที่เยอรมัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

1. การเรียนปฐมพยาบาล

ข่าวแรกสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะสอบใบขับขี่ที่เยอรมัน ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2015 เป็นต้นไป การเรียนปฐมพยาบาลที่บังคับเรียนก่อนไปสอบทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล จะเปลี่ยนจาก 8 คาบเป็น 9 คาบเรียน แต่สำหรับการเรียนปฐมพยาบาลทั่วไป จะลดจำนวนคาบจาก 16 คาบเรียน เหลือเพียง 9 คาบเรียน นั่นคือลดวันเรียนเหลือเพียง 1 วัน เหตุผลหนึ่งคือ อยากให้มีคนเข้าเรียนทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้มากขึ้นด้วยครับ

2. ข้อสอบใบขับขี่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

คือ ตั้งแต่ 1 เม.ย. จะเพิ่มข้อสอบแบบวีดีโอเป็นทั้งหมด 66 สถานการณ์ (ปีที่แล้วมี 60) และต้องตอบคำถาม 2 ข้อ จาก 66 สถานการณ์นั้น โดยผู้สอบสามารถดูวีดีโอแต่ละข้อได้ 5 รอบ ก่อนที่จะขึ้นคำถาม เมื่อคำถามขึ้นมาแล้ว ก็จะไม่สามารถย้อนดูวีดีโอได้อีกครับ

อ่าน ข้อมูลการทำใบขับขี่เยอรมัน

3. Rundfunkbeitrag ลดลง

ข่าวดีอีกข่าวสำหรับทุกครัวเรือน Rundfunkbeitrag หรือค่าธรรมเนียมการออกอากาศรายการวิทยุโทรทัศน์ ที่เราต้องจ่ายทุกเดือนให้ GEZ จะลดลงเหลือ 17.50 ยูโรต่อเดือน หรือลดไป 48 เซ็นต์ (ก็ยังดีกว่าขึ้นค่าธรรมเนียม ว่าไหมครับ) ดังนั้นตั้งแต่เดือนเม.ย. เป็นต้นไป ทุกๆ ไตรมาสเราจะถูกหักบัญชีจ่ายค่าธรรมเนียมน้อยลง 1.44 ยูโรโดยอัตโนมัติครับ

ช่วงนี้ที่เยอรมันพายุเข้าต้อนรับวันหยุดยาว เพื่อนๆ รักษาสุขภาพและดูแล
ตัวเองดีๆ นะครับ

ป.ล. ข่าวนี้เรื่องจริงนะครับ ไม่ใช่ Aprilscherz 🙂

อ่านเพิ่มที่:http://www.welt.de/wirtschaft/article138948290/Das-aendert-sich-zum-1-April-fuer-die-Deutschen.html

เตรียมสอบเยอรมันระดับ A1 | Start Deutsch 1

100p

วันนี้ผมได้คุยกับพี่แป๋ว ผู้จัดการแผนกบัญชี ที่เพิ่งสอบวัดระดับภาษาเยอรมันระดับ A1 ไปเป็นครั้งแรก และสามารถทำคะแนนได้ถึง 100 คะแนนเต็ม แม้จะเพิ่งเริ่มเรียนเยอรมันและต้องทำงานไปด้วย พี่แป๋วมีเทคนิคการทำข้อสอบอย่างไรให้ได้คะแนนเต็ม มาคุยกับเธอกันครับ 

mausmoin head 100เม้าส์มอยน์: ดีใจด้วยนะครับที่สอบเยอรมันระดับ A1 ได้คะแนนเต็ม เก่งมากเลยครับ พี่แป๋วมีเวลาเตรียมตัวนานแค่ไหน และแบ่งเวลาอ่านหนังสืออย่างไรครับ

 

p paew 0

พี่แป๋ว: พี่ไม่ใช่คนเก่งมาก แต่พี่เป็นคนที่ตั้งใจและลงมือทำจริงๆ เวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อยคะ  เพราะทำงานจันทร์ถึงศุกร์ จะได้อ่านหนังสือเฉพาะช่วงกลางคืนและเสาร์อาทิตย์ อย่างวันเสาร์อาทิตย์ จะอ่านแค่ครึ่งวัน อีกครึ่งวันก็ผ่อนคลาย จะได้ไม่ตึงมาก ส่วนวันทำงาน ตอนกลางคืนก็อ่านบ้างถ้ามีเวลา แต่พี่จะเป็นคนที่อ่านแล้วจดคำศัพท์ที่ไม่รู้ไว้ทบทวน อ่านไปจดไปจะทำให้จำได้ดีกว่า และต้องทำความเข้าใจเนื้อหาที่อ่านด้วยค่ะ

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: ฝึกทำข้อสอบยังไงบ้างครับ

 

p paew 0

พี่แป๋ว: พี่เน้นอ่านหลักไวยากรณ์ค่ะ เพราะมีเวลาเตรียมตัวน้อย และจะเน้นฝึกทำข้อสอบตามหนังสือแนวข้อสอบ A1 ค่ะ

เคล็ดลับจากเม้าส์มอยน์: ติวสอบเยอรมัน A1 กับคอร์สวิดีโอของเม้าส์มอยน์  และปูพื้นฐานจากหนังสือเรียนเยอรมันกับเม้าส์มอยน์เล่ม 1 และ 2

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: มีเทคนิคเตรียมตัวสอบแต่ละทักษะอย่างไรบ้างครับ

 

p paew 0

พี่แป๋ว: สำหรับทักษะฟัง พี่หัดฟังภาษาเยอรมันบ่อยๆ จะได้คุ้นหูกับสำเนียงและภาษาเยอรมันค่ะ  เปิดฟังบทเรียนมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เริ่มเรียนแล้ว เพราะทักษะการฟังต้องใช้เวลาฝึก ช่วงที่เตรียมตัวสอบ เลยไม่เหนื่อยมาก ฝึกทำข้อสอบด้วย ชั่วโมงกว่าๆ ก็เสร็จแล้วค่ะ จะได้ทราบว่าแนวข้อสอบจะออกประมาณไหน  และในเวลาสอบต้องมีเทคนิคนิดหน่อยดังนี้คะ

 

ทักษะฟัง

  •  ระหว่างการสอบฟัง ในแต่ละข้อจะมีเวลาหยุดให้ทำประมาณ 30 วินาที ดังนั้นก่อนจะฟังเนื้อเรื่องถัดไป ให้อ่านคำถามข้อถัดไปก่อนและขีดเส้นใต้สิ่งที่โจทย์ต้องการถาม เราจะได้หาคำตอบได้ตอนฟังคำถามข้อนั้น เพราะถ้าฟังจบแล้วมาอ่านคำถามเราก็ลืมเนื่อหาไปก่อนแล้ว
  • บางข้อที่เรารู้สึกฟังแล้วไม่เข้าใจ มีเทคนิคการเดาอยู่บ้างค่ะ  เช่น การฟังเรื่องสั่งอาหาร  โจทย์มักจะถามว่าแขกสั่งอาหารอะไร ส่วนใหญ่อาหารที่สั่งมักจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่แขกพูดถึง แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ

ทักษะอ่าน

ข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คืออ่านเนื้อเรื่องแล้วตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนั้น และประกาศ 2 อัน ให้เลือกประกาศที่ถูกต้อง

  • การทำข้อสอบอ่านส่วนแรก เราต้องจับใจความสำคัญในเนื้อเรื่องที่อ่านให้ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นเวลาอ่านให้ขีดเส้นใต้ใจความสำคัญไว้เลย พอมาอ่านคำถาม จะได้ตอบได้ง่ายขึ้น เพราะส่วนใหญ่คำถามส่วนนี้ จะถามใจความสำคัญของเนื้อเรื่อง
  • ส่วนของการอ่านประกาศ ให้อ่านคำถามให้เข้าใจก่อน ให้รู้ว่าโจทย์ต้องการอะไร แล้วค่อยอ่านประกาศจะทำให้ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นค่ะ

ทักษะเขียน

ข้อสอบมี 2 ส่วน คือ การกรอกแบบฟอร์ม และการเขียนจดหมาย

  • การกรอกแบบฟอร์ม ส่วนนี้ไม่ยาก เนื้อหาจะง่ายและคำตอบก็อยู่ในเนื้อหาแล้ว  แต่เราต้องรู้จักคำศัพท์ในแบบฟอร์มจะได้กรอกข้อมูลได้ถูก ตามตัวอย่างข้อสอบมักจะมีแบบฟอร์มให้ดูเป็นตัวอย่าง

จุดที่เราได้คะแนนง่ายๆ แน่นอน คือ วันที่ คำขึ้นต้น คำลงท้าย ใช้ให้ถูกกับบุคคลและสถานการณ์  ดูว่าจดหมายใดเป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการ

ส่วนเนื้อหา ข้อสอบจะตั้งข้อกำหนดมาให้เรา 3 ข้อ ว่าต้องการให้เราเขียนอะไร ดังนั้นต้องเขียนให้ครบทุกข้อโดยใช้ประโยคง่ายๆ ไม่ต้องหวือหวามากถ้าไม่มั่นใจ เขียนให้ตรงประเด็น และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ รับรองได้เต็มคะ

ตอนฝึก ต้องหัดเขียน หลายๆ รูปแบบ หัดแต่งประโยค ทั้งประโยคบอกเล่าและคำถาม เพราะทำให้เราสามารถแก้ปัญหา และเขียนจดหมายได้ พี่หัดเขียนไป 6 ฉบับ แต่ที่เก็งไว้ไม่ตรงเลยคะ รอบนี้ข้อสอบให้เขียนจดหมายสมัครงานเป็นพนักงานขายที่ห้าง แต่ที่เขียนได้ เพราะหัดแต่งประโยคสำหรับเตรียมสอบพูดไว้เยอะ เวลาเขียนก็เน้นเขียนประโยคง่ายๆ แต่ถูกหลักไวยากรณ์ค่ะ

 ทักษะพูด

แบ่งเป็นส่วนแนะนำตัวและการตั้งคำถาม

  • ส่วนการตั้งคำถาม เริ่มจากหัดแต่งประโยคคำถามในแต่ละหัวข้อ (Thema) พี่หัดแต่งเกือบ 60 คำถาม ฝึกแต่งประโยคและเข้าใจไวยากรณ์ ห้ามท่องจำ เพราะหากได้คำศัพท์ หรือรูปภาพที่ไม่ตรงตามที่ท่องมา เราจะทำไม่ได้ ควรหาคู่ฝึก พี่หัดถามตอบกับแฟน และให้แฟนช่วยแก้ให้เวลาเราพูดผิดค่ะ
  • ในห้องสอบ แค่ถามคำถามง่ายๆ เอาแค่ถูกไวยากรณ์ และตรงตามบัตรคำได้ ก็ได้คะแนนแล้ว เช่น ประโยคขอร้องควรขึ้นต้นด้วยกริยาที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพนั้น  เวลาตอบ ก็ตอบ Ja/Nein ก็ได้คะแนนแล้วค่ะ หรือถ้ามั่นใจก็ตอบเต็มประโยคได้เลย

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: Mausmoin.com มีส่วนช่วยในการเตรียมตัวสอบได้บ้างไหมครับ

 

p paew 0

พี่แป๋ว: Mausmoin.com ช่วยได้เยอะเลยค่ะ มีตัวอย่างประโยคที่อ่านเข้าใจง่าย ที่พี่นำไปใช้หัดแต่งประโยคได้ ที่สำคัญ เวลาไม่เข้าใจหลักไวยากรณ์เยอรมัน ก็สามารถอ่านคำอธิบายเป็นภาษาไทยจากบทเรียนใน Mausmoin.com ได้ค่ะ

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: สุดท้ายอยากให้พี่แป๋วส่งกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเยอรมันระดับ A1 ครับ

 

p paew 0

พี่แป๋ว: การจะสอบผ่านได้ ต้องมาจากความตั้งใจและความพยายามของเรา ขอส่งกำลังใจให้ทุกคน ขยันอ่านหนังสือ  หัดทำข้อสอบให้มากๆ และในวันสอบ ขอให้มีสมาธิในการทำข้อสอบนะคะ นำเคล็ดลับที่แนะนำไปใช้ พี่เชื่อว่าเราจะทำได้ค่ะ

 

mausmoin head 100

เม้าส์มอยน์: ขอบคุณมากครับ พี่แป๋ว คนเก่งของเรา  🙂


 ให้เม้าส์มอยน์ช่วยติวเข้มก่อนสอบได้แล้ววันนี้!

คอร์สวิดีโอติวสอบเยอรมันระดับA1

เรียนได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เนต ผ่านมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ เรียนได้ไม่จำกัดชั่วโมง นาน 6 เดือน สามารถเรียนคอร์สติวสอบ คู่ไปกับการปูพื้นฐานเยอรมันได้

ดูโปรโมชั่นราคาพิเศษ และสมัครทดลองเรียนที่นี่ หรือกดปุ่ม buy ซื้อคอร์ส และเริ่มเรียนได้เลย

เทคนิคการเตรียมตัวสอบเยอรมัน A1 ให้ผ่านได้ด้วยตนเอง

"เตรียมตัวสอบและศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองแบบ 100% เลยค่ะ แฟนต้องทำงานที่อื่นไม่มีเวลาช่วยติวสอบเลย แรก ๆ ก็ซื้อหนังสือเม้าส์มอยน์ทั้งเล่ม 1และ 2 มาอ่านก่อน เพื่อทำความเข้าใจ ปูพื้นฐานเรื่องคำกริยา หลักการใช้ไวยากรณ์ และได้เรียนรู้การใช้ประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อย รวมถึงคำศัพท์ต่าง ๆ ด้วย หลังจากนั้นเพื่อความมั่นใจในการสอบอีกขั้น เลยตัดสินใจเรียนกับคอร์สของครูศิริน จะเน้นดูคอร์สวีดีโอของครู (mausmoin) และฝึกทำแบบฝึกหัด ฝึกจับบัตรคำและฝึกถามตอบเอง ดูตัวอย่างการสอบพูด ช่วยได้เยอะค่ะ..." นักเรียน  A.G. (เยอรมนี)

สมัครเรียน!

Zeitumstellung auf Sommerzeit! ปรับเวลาหน้าร้อน

Sonnenfinsternis in Deutschland

sonnenfinsternis

ใครกำลังรอดูสุริยุปราคาอยู่บ้าง? ที่เยอรมันจะเห็นช่วง 9 โมงกว่าครับ แล้วที่เมืองของเพื่อนๆ จะได้เห็นกันตอนกี่โมงฮะ? 

ถือโอกาสเรียนคำนี้กันซะเลย: die Sonnenfinsternis คือ สุริยุปราคาครับ

ใครอยากเรียนเยอรมันด้วยตัวเอง ยกมือขึ้น!!